แมนซิตี้บุก เรือใบสีฟ้าฟอร์มยังคงดีที่สุดข้างหลังบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 1-0
แมนซิตี้บุก เรือใบสีฟ้าฟอร์มยังคงดีที่สุดข้างหลังบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 1-0 จากลูกโขกของ ราฮีม สเตอร์ลิงตั้งแต่ต้นเกม ทำให้ แมนฯซิตี้ ชนะรวด 18 ครั้งต่อๆ กัน ทุกรายการ
มีเพิ่มเป็น 59 คะแนน นำผู้นำฝูงทิ้งชั้นสอง แมนฯยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ 10 คะแนน ส่วนไอ้ปืนใหญ่รั้งอันดับ 10 มี 34 คะแนน ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม “บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกวันอาทิตย์ที่ 21 เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 10 เปิดบ้านจัดการหัวหน้าฝูงแมนเชสเตอร์ซิตี้
โดยผลงานปัจจุบันของทั้งสองนั้น “ปืนใหญ่” ต้อนเอาชนะ ลีดส์ 4-2 ก่อนที่จะเสมอกับ เบนฟิก้า ในยูโรปาลีก 1-1 ส่วนทางด้าน “เรือใบสีฟ้า” ยังเดินหน้าคว้าชัยรวดข้างหลังบุกไปอัด เอฟเวอร์ตัน 3-1 มิเกล อาร์เตต้า จำต้องปรับกองทัพหลายตำแหน่งตัวบุกปีกซ้ายได้ คีแรน เทียร์นี่ย์ กลับมา
ในช่วงเวลาที่แนวรุกใช้ มาร์ติน โอเดการ์ด ลงปั้นเกมร่วมกับ บูคาโย่ ซาก้า และนิโกล้าส์ เปเป้ และให้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง กัปตันกลุ่มเป็นหน้าเป้า ส่วนทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำสถิติยอดเยี่ยมเมื่อชนะมา 17 ครั้งต่อๆกันทุกรายการ วันนี้ได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาสตาร์ทตัวจริง
ไล่ล่าตาข่ายร่วมกับราฮีม สเตอร์ลิงและ ริยาด มาห์เรซ โดยมี แฟร์นานดินโญ่ ตัดเกมแล้วก็ให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และก็อิลคาย กุนโดกัน เชื่อมเกมรุก เกมออกสตาร์ทมาไม่ถึง 2นาที “เรือใบสีฟ้า” บุกมาขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ ลากจี้เข้ามาในกรอบก่อนเปิดด้วยซ้ายมาเข้าหัว
ราฮีมสเตอร์ลิง ที่ขึ้นสะบัดกระแทกไปเสาไกลแทงมุมตาข่ายประเภทที่ แบร์นด์ เลโน่ ได้แต่ว่ายืนมอง ยังเป็น แมนฯซิตี้ ที่ครอบครองบอลได้เหนือกว่าและโหมโจมตีทางฝั่งขวานาที 7 แบร์นาร์โด้ ซิลวา แทงให้ ริยาด มาห์เรซ โยกหลอกก่อนซัดไปติดบล็อค คีแรน เทียร์นี่ย์ ออกข้างหลัง
จังหวะหนแรกของเจ้าถิ่นจำเป็นต้องคอยถึงนาที 18 ข้างหลังคีแรน เทียร์นี่ย์ ผ่านบอลมาให้ บูคาโย่ ซาก้า ซัดด้วยขวาแม้กระนั้นบอลก็หลุดกรอบออกไป “ปืนใหญ่” เริ่มคอนโทรลและบุกเข้าใส่ได้มากขึ้นนาที 30 กรานิต ชาคา ไหลถึงแม้ว่าจะ คีแรน เทียร์นี่ย์ ซัดนอกกรอบด้วยซ้าย
แม้กระนั้นบอลก็ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน นายด่านทัพเรือใบ อีก 4 นาทีต่อมา เจ้าของบ้านแทบพลาดข้างหลังโดน แฟร์นานดินโญ่ ตัดบอลได้ก่อนลากขึ้นมาแล้วไหลให้ อิลคาย กุนโดกัน ซัดหน้าปากประตูแม้กระนั้นยังดีที่ ร็อบ โฮลดิ้ง ตามเข้าไปบล็อคไว้ได้ทัน ด้านหลังครึ่งแรก
แมนซิตี้บุก อาร์เซน่อลได้ครอบครองเกมแล้วก็จู่โจมเรือใบได้มากขึ้นนาที 43 เกือบจะได้ลุ้นตีเสมอข้างหลัง เบเยริน โขกชงให้ เปเป้ หลุดไปถึงเส้นข้างหลังก่อนหักจะให้ เบเยริน ที่กำลังจะวิ่งมาซัดแม้กระนั้นโดน กุนโดกัน มาตามแซะ แต่ทว่าบอลมาเข้าทาง เปเป้ หวดด้วยซ้ายซ้ำไปเข้าข้างตาข่าย ศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น
จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล ตามหลัง แมนฯซิตี้0-1
แมนซิตี้บุก ช่วงหลังนาที 48 แมนฯซิตี้ เกือบจะได้เม็ดลำดับที่สองนำห่างจากจังหวะขึ้นมาด้านซ้ายของ ซินเชนโก้ ไหลเข้ากึ่งกลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ บากบั่นชิพบอลแทงเสาไกลอย่างเหนือชั้นแต่ว่าบอลโค้งถากเสาออกไปอย่างโชคร้าย “เรือใบสีฟ้า” บุกมาอีกครั้งและก็ได้ลุ้นอีกรอบในนาที 57 ดูบอลสด
จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน ปั่นบอลด้วยขวาหน้ากรอบ กำลังจะพุ่งแทรกเสาอยู่สุดแต่ กางร์นด์ เลโน่ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้เฉียดนาที 72 ยกเอา กานเซโล่ จ่ายบอลคืนหลังไม่ได้ทำให้ เอแดร์ซอน จำเป็นต้องแก้ไข้ แม้กระนั้นแปลงเป็นสกัดบอลไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่
วอลเลย์แบบไม่จับนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดฉิวเสาออกไปแบบได้เสียวนาที 80 กลุ่มเยี่ยมชวดได้เม็ดลำดับที่สองนำห่างข้างหลัง ชูเอา กานเซโล่ วิ่งไปรับบอลจาก กาเบรียล เชซุส แต่ว่าดีดไซด์ก้อยไปเสาไกลบอลโค้งช้าไปหลุดกรอบออกไปอย่างโชคร้าย ขณะที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม
จบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านพ่ายแพ้ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 นำมาซึ่งการทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ทำสถิติชนะทุกรายการที่ 18 ครั้งต่อๆกัน พร้อมนำผู้นำฝูงโดยมีเพิ่มเป็น 59 แต้มทิ้งชั้น 2 อย่างแมนฯยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ 10 คะแนน ส่วน “ปืนใหญ่” แพ้เป็นเกมที่ 11 จากการลงเล่น 25 นัดหมาย
รั้งอันดับ 10 มี 34 คะแนนดังเดิม รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ – เอ็คตอร์ เบเยริน, ร็อบ โฮลดิ้ง (ดาวิด ลุยซ์ น.82), ปาโบล มารี, คีแรน เทียร์นี่ย์ – โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ (ดานี่ เซบายอส น.86), กรานิต ชาคา – บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด (อเลซองดร์ ลากาแซตต์ น.73),
นิโกล้าส์ เปเป้ (เอมิล สมิธ โรว์ น.73) – ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง แมนซิตี้บุก ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดร้ ซินเชนโก้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ,
แมนซิตี้บุก เควิน เดอ บรอยน์ (กาเบรียล เชซุส น.63), ราฮีม สเตอร์ลิง แซงผีขึ้นรองฝูง