เยี่ยมจริงไม่มีฟลุค แซม อัลลาร์ไดซ์ ผู้จัดการทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ยอมรับผู้ร่วมทีมเล่นกันได้ยอดเยี่ยม
เยี่ยมจริงไม่มีฟลุค ข้างหลังบุกไปยำเชลซี 5-2 พร้อมโวเกมนี้ไม่เกี่ยวกับการที่คู่ต่อสู้เหลือสิบคน หรือเล่นได้ต่ำยิ่งกว่ามาตรฐาน แซม อัลลาร์ไดซ์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน กล่าวยกย่องผู้ร่วมทีมว่า โชว์ฟอร์มกันได้ยอดเยี่ยมทุกคน
ภายหลังที่กองทัพ “เดอะ แบ็กกี้ส์” บุกไปกระหน่ำเชลซี 5-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ม.ย. ก่อนหน้าที่ผ่านมา คริสเตียน พูลิซิช ยิงให้เชลซี ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 27 ศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น
แต่ทว่าต่อไปเพียงแค่ 2 นาที “สิงห์บลูส์” จำต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เพราะว่า ว่ากล่าวอาโก้ สิลวา ได้รับใบแดงจากการเข้าหนักใส่คู่ปรับ และก็ต่อจากนั้นในตอนทดเจ็บครึ่งแรก มาเตอุส เปเรยร่า เหมาทำสองตุงช่วย เวสต์บรอมวิช กลับขึ้นนำ 2-1
ตอนช่วงหลัง เวสต์บรอมฯ มาได้ประตู 3-1 รวมทั้ง 4-1 แบบติดๆจาก คัลลั่ม โรบินสัน นาทีที่ 63 แล้วก็ เอ็มบาย ดิญาน นาทีที่ 68 ถึงแม้นาครั้งที่ 71 เชลซีได้ประตูลำดับที่สองจากการยิงของ เมสัน เมาท์ แต่ท้ายที่สุด “เดอะ แบ็กกี้ส์” มาได้ประตูย้ำชัย 5-2 จากการยิงอันเหนือชั้นของ โรบินสัน
ซึ่งนับว่าเป็นประตูลำดับที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย “พวกเราไม่มีอะไรจำเป็นต้องพร่ำบ่นเลยกับฟอร์มการเล่นในวันนี้ มันเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมมากมายๆจากทุกคน พวกเราไล่กระหน่ำเชลซี ที่ยังไม่แพ้ผู้ใดนับจากได้กุนซือคนใหม่ จะมาบอกว่าเชลซี เล่นได้ต่ำลงมากยิ่งกว่ามาตรฐาน หรือจะมาบอกว่า พวกเขาเหลือผู้เล่น 10 คนมิได้หรอ
รวมทั้งทุกๆคนจะต้องบอกว่า พวกเราคว้าชัยในเกมนี้ได้ เพราะเหตุว่าด้วยฟอร์มและก็ประสิทธิภาพอันเยี่ยมที่สุดของพวกเรา ที่พวกเขาหลุดฟอร์ม เพราะเหตุว่าพวกเราเล่นกันดีเกินความจำเป็นมากยิ่งกว่า” ผู้จัดการทีมฟุตบอลผู้ดีอังกฤษวัย 66 ปี
เยี่ยมจริงไม่มีฟลุค ความแหลมคมจะต้องชูให้โชต้า
เยี่ยมจริงไม่มีฟลุค “เดอะ ค็อป” อาจมีเซ็งน้อยเมื่อเกมนี้ ดีโอโก้ โชต้า ออกตัวเพียงแต่บนม้านั่งสำรองทั้งๆที่เจ้าตัวพึ่งโชว์ฟอร์มฮอตในกลุ่มชาติด้วยการยิง 3 ประตูจาก 2 เกม อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าหากมองดูอีกมุมหนึ่ง คล็อปป์ บางทีอาจมีความคิดเห็นว่าโชต้า สำคัญมากเลยจำเป็นต้องสั่งพักเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้เต็มที่เนื่องจากว่าอย่าลืมว่ามีเกมสำคัญกับ เรอัล มาดริด ในกึ่งกลางอาทิตย์นี้รออยู่
เกมนี้ หงส์แดง เป็นข้างครอบครองบอลเหนือกว่าตลอดทั้งเกม แม้กระนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาก็คือจังหวะในที่สุดพวกเขาขาดๆเกินๆตลอด โดยยิ่งไปกว่านั้นสามผสานดินแดนหน้าที่คู่ต่อสู้จับทางได้ไม่ยาก มั่นใจว่าแฟนหงส์บางทีก็อาจจะเห็นภาพนี้จนเคยชินตาในช่วงฤดูกาลนี้ ดูบอลสด
แต่โอกาสนี้พวกเขามีชายที่ชื่อว่าโชต้า กลับมาแล้ว คล็อปป์ ตกลงใจครั้งสำคัญเปลี่ยนแปลง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ออกแล้วนำโชต้า ลงมาในนาทีที่ 61 ซึ่ง 3 นาทีถัดมาเขาก็ไม่ทำให้แฟนหงส์ผิดหวังด้วยการกระแทกประตูขึ้นนำ ประตูแรกนี้เสมือนจะคือเรื่องธรรดาเนื่องจากว่าเป็นการครอสบอลจากข้างๆให้แนวรุกโหม่งประตู
แต่ว่าสิ่งที่โชต้า ทำเป็นดีมากกว่าบรรดาแนวรุกสามผสานโน่นเป็นการวิ่งหาตำแหน่งในจุดโทษรวมทั้งความแหลมคมสำหรับการทำแต้ม ไม่เพียงเท่านั้นแผงหน้าชาวโปรตุกีสยังมากมายดอีกหนึ่งประตูจากการวิ่งเข้ามาหวดบอลในจุดโทษ
ภายหลัง อาร์เซน่อล เสียบอลในดินแดนข้างหลัง นี่นับว่าเป็นประตูที่ 12 ในช่วงฤดูกาลนี้แล้ว ชี้ให้เห็นว่าเขาสำคัญมากเพียงใดกับเกมรุกของกลุ่ม สามผสานดินแดนหน้าบางครั้งอาจจะดีแต่หากขาดโชต้าไปมันขาดความอร่อยอย่างแจ่มแจ้ง
แผนสวนกลับที่ไม่มีการสวนกลับ
อาร์เซน่อล สู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงแล้วก็ผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันที่ออกมานับว่าไม่ผิดแปลกอะไร เมื่อก่อนพวกเราจะมาสับผลงานของ “ปืนใหญ่” จำต้องอย่าลืมว่าพวกเขาขาดตัวผู้เล่นอีกทั้ง กรานิต ชาคา, บูกาโย่ ซาก้า รวมทั้ง เอมิล สมิธ โรว์ ซึ่งเป็นสามคีย์แมนหลักในตำแหน่งกองกลางแล้วก็แนวรุก
การขาดทั้งยังสามคนบางทีอาจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ อาร์เตต้า ตกลงใจคิดแผนให้ อาร์เซน่อล ย้ำเกมรับมากยิ่งกว่าธรรมดาแล้วก็อาศัยจังหวะสวนกลับ เมื่อ “เดอะ กันเนอร์ส” เพียรพยายามเซ็ตบอลจากดินแดนของตน ผู้เล่นใครหลายๆคนไม่ค่อยเขยื้อนหาตำแหน่งกัน เป็นประตูชัย
ในช่วงเวลาที่ โอบาเมย็อง รวมทั้ง เปเป้ จำเป็นต้องลงมาล้วงบอลต่ำ พวกเขาจำต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการสร้างเกมรุกขึ้นไป ซึ่ง หงส์แดง ใช้แนวทางบีบเพรสซิ่งไม่ให้กลุ่มของอาร์เตต้าขึ้นบอลได้ง่าย
ใน 25 นาทีแรก ผู้เล่นอาร์เซน่อลได้จับบอลในจุดโทษหงส์แดงเพียงแค่ครั้งเดียวแค่นั้นก่อนจำนวนจะมากขึ้นเป็น 4 เมื่อจบครึ่งแรก ช่วงเวลาที่ช่วงหลังเสมือนหนังม้วนเดิม อาร์เซน่อล ครอบครองบอลมิได้เลยทำเกมสวนกลับมิได้ด้วย พวกเขาจบเกมด้วยช่องทางยิงเพียงแค่ 3 ครั้ง ส่งบอลเพียงแค่ 299 ครั้ง (หงส์แดง จ่าย 610 ครั้ง) ได้ผลงานที่น่าผิดหวังมากมายๆของ อาร์เตต้า อาจจะจำเป็นต้องรอมองกันว่าพวกเขาจะกู้ฟอร์มมาในยูโปา ลีก ได้หรือเปล่า