ตัวสำคัญของทีม เมสัน จัดการซัดประตูสุดงามช่วยให้ต้นสังกัดขึ้นนำไปก่อน ตัวสำคัญของทีม
ตัวสำคัญของทีม จากนั้น แฟร์นันด์ส กับ ปอล ป็อกบา ก็ประสานงานกันอย่างเข้าขาก่อนที่ สตาร์ดังชาวโปรตุกีส จะซัดบอลเสียบตาข่าย และประตูตบท้ายก็เป็น เจ้าตัวที่ตะบันแบบไม่จับ ส่งให้ทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญได้อย่างสวยหรู
สำหรับฟอร์มการเล่นในแมตช์นี้เป็นสิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องการมาตลอด เพราะเป็นการเล่นที่ครบเครื่องทั้งเกมรับแน่น, เกมรุกเฉียบคม และยังมีจังหวะสวนกลับที่แม่นยำอันตรายสุดๆ ที่สำคัญชัยชนะในแมตช์นี้ช่วยส่งให้ทีมแซงหน้า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ ขึ้นไปรั้งอันดับ 5 มีลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป
โปรแกรมต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือการพบกับ บอร์นมัธ ในวันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม ก่อนจะเดินทางไปพบทีมหนีตาย “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า สัปดาห์หน้า ฉะนั้นด้วยฟอร์มที่เข้าฝักแบบนี้ แฟน “ผีแดง” อาจจะได้ยิ้มกันยาวๆ ก็เป็นไปได้ หากตั้งใจก็ทำได้
แฟร์นันด์ส ยิ่งเล่นยิ่งเก่ง
นับวันฟอร์มการเล่นของ บรูโน่ ยิ่งโดดเด่น คงจะไม่ผิดหากจะบอกว่าตอนนี้เขาเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะทุกครั้งที่บอลอยู่ในเท้า สตาร์ลูกหนังชาวโปรตุกีส สามาถร่ายเวทมนตร์จนคู่แข่งต้องปั่นป่วนไปหมด
แมตช์นี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงเลือกใช้ 3 แกนหลักแดนกลางได้แก่ ปอล ป็อกบา และ เนมานย่า มาติช โดยการได้ทั้งสามคนเล่นร่วมกันทำให้แดนกลาง “ปีศาจแดง” แน่นปึ้กโดยเฉพาะในเรื่องเกมบุกจะเห็นได้ชัดว่า แมนฯ ยู โดดเด่นมากๆ
สำหรับฟอร์มการเล่นของเขา ก็ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม และฟอร์มแบบนี้น่าจะเป็นการยืนยันได้แล้ว สตาร์ลูกหนังเลือดฝอยทอง เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเกมรุกของ ยอดทีมเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัย โดยเฉพาะการประสานงานกับ ป็อกบา ที่ช่วยให้เกมรุกของ “เร้ด เดวิลส์” มีมิติ และน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
มีโอกาสยิงไกลในเกมนี้พอสมควร และดูเหมือนว่าการซัดประตูในสไตล์นี้จะเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาไปแล้ว แถมการเล่นกับ ป็อกบา ที่ช่างเข้าขารู้ใจเหมือนกับเล่นร่วมกันมานานเป็นปี แต่จริงๆ แล้วแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น เป็นการการันตีว่าพวกเขาสามารถลงสนามพร้อมกันได้
สองประตูสุดสวยในเกมนี้จากฝีเท้าของเจ้าตัว ทำให้เจ้าตัวซัดรวมไปแล้ว 5 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ในลีก และช่วยให้ แมนฯ สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น 15 แมตช์ ในทุกรายการ (ชนะ 11 เสมอ 4) ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเป็นขวัญใจคนใหม่ของ “เร้ด อาร์มี่”
มาติช พระเอกปิดทองหลังพระ
สำหรับตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีตัวเลือกในแดนกลางมากมาย โดยเฉพาะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ โซลชา สามารถเลือกใช้งานนักเตะอย่าง เนมานย่า มาติช, เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งจะคอยทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุน ป็อกบา ศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น
ในเกมลีก 2 แมตช์ที่ผ่านมา “น้าลูกอม” ไว้วางใจให้ มาติช ทำหน้าที่คอยเก็บกวาดแดนกลาง และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะทั้งในทุบ เชฟฟิลด์ และแมตช์ล่าสุดถลุง ไบรท์ตัน นักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล การผ่านบอลในจังหวะที่ทีมได้ประตูที่สนาม ก็เริ่มต้นมาจาก ดาวเตะเลือดเซิร์บ ที่วอลเล่ย์อย่างสวยงามส่งให้ เมสัน ซึ่งกระชากบอลแล้วตักไปให้ ตะบันประตู
ตอนนี้คงต้องบอกว่าทั้ง เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงต้นฤดูกาล ต้องเจอกับงานสุดหินในการเบียดแบ่งตำแหน่งกับ มาติช อย่างไรก็ตาม โซลชา ยังต้องการนักเตะทั้งสองคน เพราะพวกเขายังเป็นตัวเลือกเพื่อที่ทีมจะได้มีผู้เล่นหมุนเวียนลงสนาม จนกระทั่งจบซีซั่นนี้
ในเวลานี้เริ่มมีเสียงจากสาวกแมนเชสเตอร์ ที่เชื่อมั่นในแนวทางการสร้างทีมของ โซลชา ที่ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากยังคงรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ต่อไป โอกาสที่จะเบียดกับ เชลซี ในการลุ้นทำอันดับท็อปโฟร์ก็มีค่อนข้างสูง
กรีนวู้ด พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงแรกๆ หลายคนค่อนข้างปรามาส เมสัน ว่าจะเป็นเหมือนดอกไม้ไฟ ที่ยิงขึ้นไปบนฟ้าและส่องสว่างอยู่ซักพักนึงก่อนจะค่อยๆ มอดดับไปบนฟากฟ้า แต่ดูเหมือนว่าแนวคิดดังกล่าวคงจะผิดมหันต์ เพราะตอนนี้ ดาวเตะวัย 18 ปีเริ่มฉายแสงความเก่งฉกาจขึ้นเรื่อยๆ ดูบอลสด
กรีนวู้ด ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และแสดงให้เห็นถึงทักษะชั้นยอดด้วยลีลาการกระชากลากเลื้อย ที่ทำเอากองหลังไบรท์ตัน ระส่ำระส่าย โดยเฉพาะในจังหวะที่ยิงประตูให้ “ผีแดง” ขึ้นนำ โชว์ลีลาการเลี้ยงหลอกคู่แข่งก่อนจะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
ขณะที่ในจังหวะเล่นสวนกลับ “ไม้เขียว” โชว์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเลี้ยงบอลติดเท้าก่อนจะตักบอลด้วยน้ำหนักที่เหมาะเจาะให้ แฟร์นันด์ส ซัดแบบไม่ต้องจับช่วยให้ทีมนำห่าง 3-0 ตอนนี้คงต้องยอมรับว่า มีพัฒนาการเยอะมาก และฟอร์มของเขาดูเหมือนกับนักเตะที่โตเต็มวัย มากกว่าแค่แข้งดาวรุ่งพุ่งแรง
ที่สำคัญคงไม่ใช่เรื่องผิดหากจะเปรียบเทียบสไตล์การเล่นของ กรีนวู้ด กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตำนานกองหน้า ทีมชาติฮอลแลนด์ แต่ถึงแม้ในเวลานี้ฟอร์มของเขายังไม่อยู่ในระดับเดียวกับ “อาร์วีพี” แต่บอกได้เลยว่าหากรักษาผลงานแบบนี้ ในอนาคต คงน่ากลัวสุดๆ